มาเซราติ ประเทศไทย จัดทดสอบ ‘เลอวานเต้ ไฮบริด’ เอสยูวีลูกผสมยุคใหม่

By / 2 years ago / News / No Comments
มาเซราติ ประเทศไทย จัดทดสอบ ‘เลอวานเต้ ไฮบริด’ เอสยูวีลูกผสมยุคใหม่

ทะยานแรงบนปราจีนบุรี-เขาใหญ่

มาเซราติ ประเทศไทย ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ มาเซราติ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียว
ในประเทศไทย จัดทริปทดสอบสมรรถนะ ‘เลอวานเต้ ไฮบริด’ (Levante Hybrid) เอสยูวีสุดหรู
ควงคู่ขุมพลังไมลด์ไฮบริด แรง รักษ์โลก บนเส้นทางปราจีนบุรี-เขาใหญ่

ปิยะเทพ ศิวากาศ, ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย กล่าวว่า “มาเซราติ ‘เลอวานเต้ ไฮบริด’
เป็นเสมือนก้าวที่สองของการเข้าสู่ยุคแห่งยนตรกรรมไฟฟ้าในอนาคตของ มาเซราติ ตามหลังรุ่นพี่อย่าง ‘กิบลี่ ไฮบริด’ (Ghibli Hybrid) ที่เปิดตัวช่วงปี 2563 เลอวานเต้ ไฮบริด เป็นรถที่ขับสนุก
มีประสิทธิภาพรอบด้าน พร้อมสุ้มเสียงกระหึ่มเร้าใจ ซึ่งเป็นผลจากการนำเทคโนโลยีไฮบริดมาใช้
ทำให้เครื่องยนต์บล็อกนี้ ตอบสนองดีตั้งแต่รอบต่ำ ไม่ต่างจากเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ แต่ให้ความประหยัดสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น รถรุ่นนี้เป็นเสมือนตัวแทนที่แสดงถึงมาตรฐานใหม่
ของ มาเซราติ ที่ตั้งเป้าว่ารถรุ่นใหม่ในอนาคตทั้งหมด จะผ่านการพัฒนา, ผลิต และประกอบที่โรงงาน
มาเซราติ ในอิตาลี 100% ผสานเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอันล้ำสมัย เพื่อดำรงไว้ซึ่งคุณค่าของแบรนด์ที่พวกเราทุกคนภาคภูมิใจ โดยครั้งนี้เป็นการทดสอบสมรรถนะอันเหนือชั้นของ ‘เลอวานเต้ ไฮบริด’ บนเส้นทางปราจีนบุรี-เขาใหญ่ ที่มีหลากหลายของเส้นทางและพื้นผิว เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพของรถอย่างเต็มที่”

++ เส้นสายพลิ้วไหว ดีไซน์ตามแบบฉบับอิตาเลียนพันธุ์แท้
โครงสร้างตัวถังเป็นการผสมผสานโลหะและอะลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนัก ขณะที่รูปลักษณ์ยังคงเดิม โฉบเฉี่ยวและดูหรูหรา สะท้อนทักษะการออกแบบของชาวอิตาเลียน ที่สามารถทำให้เอสยูวีมีเส้นสายพลิ้วไหวและโดดเด่นอย่างเหนือชั้น พร้อมความพิเศษกับ 3 ช่องระบายอากาศด้านข้าง ที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีน้ำเงิน เพื่อแสดงถึงการเป็นยนตรกรรมไฮบริด

++ ขุมพลัง Mild Hybrid ต้นจัด ปลายไหล สะใจกับ ‘Maserati Signature Sound’
มาเซราติ ‘เลอวานเต้ ไฮบริด’ ทะยานแรงด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร ฉีดเชื้อเพลิงตรงสู่ห้องเผาไหม้ ผสานระบบไฟฟ้า BSG (Belt Starter Generator) 48 โวลต์ มาช่วยเพิ่ม
การตอบสนองช่วงรอบต่ำ จึงสามารถใช้เทอร์โบขนาดใหญ่ขึ้น โดยไม่เกิดอาการรอรอบ (Turbo Lag) ส่งผลดีต่อความเร็วปลาย ที่หลั่งไหลมาแบบต่อเนื่อง โดยมีกำลัง 330 แรงม้า (HP) ที่ 5,750
รอบ/นาที แรงบิด 450 นิวตันเมตร ที่ 2,250 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ผ่านเกียร์อัตโนมัติ
8 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6 วินาที ท็อปสปีด 245 กม./ชม. ติดตั้งช่วงล่างถุงลม
เป็นมาตรฐาน ให้ทั้งความนุ่มนวลและประสิทธิภาพยึดเกาะดีเยี่ยม ในทุกสภาพเส้นทาง ผสานเสียงคำรามจากปลายท่อไอเสีย ‘Maserati Signature Sound’ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สัมผัสได้
ในยนตรกรรม มาเซราติ เท่านั้น