03/03/2021

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี

3 years ago / 0 comments

ผู้นำรถเอสยูวีแบบปลั๊กอินไฮบริดที่ขายดีที่สุดในยุโรปปี 2563 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่นแถลงอย่างเป็นทางการว่ามิตซูบิชิเอาท์แลนเดอร์ปลั๊กอินไฮบริด (พีเอชอีวี) ยังคงตอกย้ำการเป็นผู้นำรถเอสยูวีแบบปลั๊กอินไฮบริดที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในยุโรปด้วยยอดจำหน่ายมากถึง26,673คันในปี2563 ที่ผ่านมา  มิตซูบิชิเอาท์แลนเดอร์พีเอชอีวี ถือเป็นรถยนต์รุ่นแฟล็กชิพที่สำคัญและแสดงถึงความเชี่ยวชาญของ มิตซูบิชิมอเตอร์ส ทั้งในด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านพลังงานไฟฟ้า ยานยนต์อเนกประสงค์ และเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ส่งผลให้มิตซูบิชิเอาท์แลนเดอร์พีเอชอีวี มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล มีความต่อเนื่องและเงียบ พร้อมอัตราการเร่งแซงที่ยอดเยี่ยมและทรงพลัง ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มิตซูบิชิเอาท์แลนเดอร์พีเอชอีวี มีจำหน่ายแล้วกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และมียอดจำหน่ายสะสมทั่วโลกมากถึง 270,000 คัน เมื่อสิ้นสุดเดือนธันวาคมปี 2563 ที่ผ่านมา  “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ มิตซูบิชิเอาท์แลนเดอร์พีเอชอีวี ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าจำนวนมากในยุโรป ซึ่งลูกค้าต่างให้ความสำคัญและใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ควบคู่กับความนิยมของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว” มร. ทาคาโอะคาโตะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่นกล่าว “ทั้งนี้ภารกิจของเรา คือ การคิดค้นยานยนต์ที่น่าตื่นเต้นและมีความปลอดภัยเพื่อส่งมอบให้แก่ลูกค้าทั่วโลก ครบครันด้วยเทคโนโลยีที่ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมมุ่งมั่นและมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน โดยเราได้ตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2573 … More…

‘มิชลิน’ ผนึกพันธมิตรกับ ‘นีโอไลน์’ 


3 years ago / 0 comments

ยกระดับโลจิสติกส์สู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ล่าสุด ‘มิชลิน’ ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงให้ ‘นีโอไลน์’ (Neoline) บริษัทเจ้าของเรือสัญชาติฝรั่งเศส เป็นผู้ดำเนินการขนส่งสินค้าทางทะเลบนเส้นทางระหว่างแคนาดาและฝรั่งเศส โดยถือเป็นก้าวสำคัญในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ของมิชลิน เพื่อบรรลุเป้าหมายองค์กรที่ต้องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในทุกเขตพื้นที่ดำเนินงานภายในปี 2593 ทั้งนี้ นีโอไลน์ เป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่นำเสนอนวัตกรรมบริการขนส่งสินค้าทางเรือแบบปลอดคาร์บอนฯ (Carbon-Free Shipping Services) โดยเรือขนส่งสินค้าความยาว 136 เมตรใช้ระบบขับเคลื่อนหลักด้วยใบเรือขนาด 4,200 ตารางเมตรและพลังงานลมซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน ถือเป็นนวัตกรรมโซลูชั่นที่โดดเด่นซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าทางทะเลข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกได้สูงถึงร้อยละ 90  ปิแอร์-มาร์ติน ฮูเอท์ (Pierre-Martin Huet) ผู้อำนวยการฝ่ายซัพพลายเชนของกลุ่มมิชลิน เปิดเผยว่า “การร่วมพันธมิตรครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกในการขนส่งสินค้าแบบปลอดคาร์บอนฯ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของมิชลิน โดยจะมีส่วนผลักดันให้มิชลินบรรลุเป้าหมายที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเกิดจากการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ระหว่างปี 2561 ถึงปี 2573 ลงให้ได้ร้อยละ 15” ฌอง ซานุตตินี (Jean Zanuttini) ประธานบริษัท นีโอไลน์ กล่าวเสริมว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ให้บริการแก่กลุ่มมิชลินซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติฝรั่งเศสที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมและการสัญจรที่ยั่งยืน การร่วมพันธมิตรในระยะแรกนี้ครอบคลุมเส้นทางสายตะวันออกจากทวีปอเมริกาไปยังทวีปยุโรป และเส้นทางสายตะวันตกจากทวีปยุโรปไปยังทวีปอเมริกา ด้วยเรือขนส่งสินค้าแบบใช้ใบเรือของเรา เราได้พัฒนารูปแบบการขนส่งสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม … More…