ตลาดรถยนต์ตุลาคมรอสัญญาณบวกช่วงสิ้นปี

By / 2 years ago / News / No Comments
ตลาดรถยนต์ตุลาคมรอสัญญาณบวกช่วงสิ้นปี

ยอดขายรวม 64,462 คัน ลดลง 13%

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนตุลาคม 2564 ชะลอตัวต่อเนื่องในทุกเซ็กเมนท์ โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 64,462 คัน ลดลง 13%ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 19,950 คัน ลดลง 11.2% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 44,512 คัน ลดลง 13.8% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 35,352 คัน ลดลง 13.4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว

  • ประเด็นสำคัญ

    ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคม 2564 มีปริมาณการขาย 64,462 คัน ลดลง 13% โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 11.2% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 13.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากความวิตกกังวลต่อภาวะการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ยังคงเกิดขึ้นทั่วประเทศ รวมทั้งสภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ยังคงส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน การทำธุรกิจ และภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนความสามารถในการซื้อรถใหม่ของลูกค้า

    ตลาดรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายนมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น และมาตรการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว ตลอดจนการฉีดวัคซีนให้กับคนไทยเริ่มทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ส่งผลทางจิตวิทยาในเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ที่คาดว่าจะทำให้การจับจ่ายใช้สอยของคนไทยในการบริโภคและการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ตลอดจนการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศจะมีมากขึ้นในช่วงปลายปี รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะเข้ามาหมุนเวียนเพิ่มเติมในระบบเศรษฐกิจจะทำให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปี ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งสถานการณ์ตลาดรถยนต์จะดีขึ้นไปจนถึงสิ้นปีที่จะมีการจัดงาน อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ซึ่งหลายค่ายรถยนต์ต่างนำเสนอแคมเปญส่งเสริมการขาย “เงื่อนไขเดียวกับ มอเตอร์ เอ็กซ์โป” ในช่วงปิดตัวเลขการขายประจำปีด้วยเช่นกัน

  • ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนตุลาคม 2564 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว
  • ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 64,462 คัน ลดลง 13%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      22,845 คัน      ลดลง        11.1%         ส่วนแบ่งตลาด 35.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           15,411 คัน      ลดลง        10.3%         ส่วนแบ่งตลาด 23.9%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      7,183 คัน       ลดลง        20.3%       ส่วนแบ่งตลาด 11.1%

  • ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 19,950 คัน ลดลง 11.2%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า      6,655 คัน        ลดลง         8.0%         ส่วนแบ่งตลาด 33.4% อันดับที่ 2 โตโยต้า   5,651 คัน       ลดลง         9.5%         ส่วนแบ่งตลาด 28.3%

อันดับที่ 3 ซูซูกิ           1,780 คัน       ลดลง       11.4%          ส่วนแบ่งตลาด  8.9%

  • ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 44,512 คัน ลดลง 13.8%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      17,194 คัน      ลดลง       11.7%        ส่วนแบ่งตลาด 38.6% อันดับที่ 2 อีซูซุ           15,411 คัน      ลดลง       10.3%        ส่วนแบ่งตลาด 34.6%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        2,823 คัน       เพิ่มขึ้น       6.5%        ส่วนแบ่งตลาด  6.3%

  • ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 35,352 คัน ลดลง 13.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      14,918 คัน     ลดลง     10.3%           ส่วนแบ่งตลาด 42.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           14,002 คัน     ลดลง     12.5%           ส่วนแบ่งตลาด 39.6%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        2,823 คัน       เพิ่มขึ้น     6.5%           ส่วนแบ่งตลาด  8.0%

                               *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,174 คัน

โตโยต้า 2,079 คัน – อีซูซุ 889 คัน – มิตซูบิชิ 564 คัน – ฟอร์ด 492 คัน – นิสสัน 150 คัน

  •  ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 31,178 คัน ลดลง 15.1%

อันดับที่ 1 อีซูซุ                    13,113 คัน     ลดลง       17.7%        ส่วนแบ่งตลาด 42.1%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      12,839 คัน     ลดลง        7.2%        ส่วนแบ่งตลาด 41.2%

                   อันดับที่ 3 ฟอร์ด         2,331 คัน      เพิ่มขึ้น      6.1%         ส่วนแบ่งตลาด  7.5%              

  • สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ตุลาคม 2564
  • ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 596,393 คัน ลดลง 2.1%                           

อันดับที่ 1 โตโยต้า      189,405 คัน     เพิ่มขึ้น        3.6%       ส่วนแบ่งตลาด 31.8%

อันดับที่ 2 อีซูซุ          146,940 คัน     เพิ่มขึ้น        4.4%       ส่วนแบ่งตลาด  24.6%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      68,512 คัน     ลดลง          7.5%      ส่วนแบ่งตลาด 11.5%

  • ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 196,090 คัน ลดลง 7.2%                                

อันดับที่ 1 ฮอนด้า      60,061 คัน     ลดลง        2.6%        ส่วนแบ่งตลาด 30.6%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      48,752 คัน     ลดลง        6.1%        ส่วนแบ่งตลาด 24.9% อันดับที่ 3 มาสด้า 16,637 คัน     ลดลง       10.6%        ส่วนแบ่งตลาด  8.5%

  • ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 400,303 คัน เพิ่มขึ้น 0.7%                           

อันดับที่ 1 อีซูซุ                    146,940 คัน     เพิ่มขึ้น       4.4%        ส่วนแบ่งตลาด 36.7%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      140,653 คัน     เพิ่มขึ้น       7.4%        ส่วนแบ่งตลาด 35.1%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        25,353 คัน     เพิ่มขึ้น     15.5%        ส่วนแบ่งตลาด  6.3%

  • ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 312,141 คัน ลดลง 1%                            

อันดับที่ 1 อีซูซุ           133,316 คัน     เพิ่มขึ้น        2.3%       ส่วนแบ่งตลาด 42.7%อันดับที่ 2 โตโยต้า   119,880 คัน     เพิ่มขึ้น        6.8%       ส่วนแบ่งตลาด 38.4%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด         25,353 คัน     เพิ่มขึ้น      15.5%       ส่วนแบ่งตลาด  8.1%

                               *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 40,334 คัน

โตโยต้า 18,065 คัน – อีซูซุ 12,715 คัน – มิตซูบิชิ 5,096 คัน – ฟอร์ด 3,836 คัน – นิสสัน 622 คัน

  •  ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 271,804 คัน ลดลง 4.1%

อันดับที่ 1 อีซูซุ           120,601 คัน     ลดลง          4.4%      ส่วนแบ่งตลาด 44.4%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      101,815 คัน     เพิ่มขึ้น        4.0%       ส่วนแบ่งตลาด 37.5%                 อันดับที่ 3 ฟอร์ด  21,517 คัน   เพิ่มขึ้น      20.0%      ส่วนแบ่งตลาด  7.9%