AMG Driving Academy 2019 “เอเอ็มจี ไดรฟ์วิ่ง อะคาเดมี” ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

AMG  Driving Academy 2019 “เอเอ็มจี ไดรฟ์วิ่ง อะคาเดมี”  ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

บทความ / test :   อบรมขับขี่  AMG Driving Academy 2019 By จุฑารัตน์ อุ้มญาติ บรรณาธิการบริหารอำนวยการ www.missside.com

กิจกรรมการอบรมขับขี่ “เอเอ็มจี ไดรฟ์วิ่ง อะคาเดมี”  (AMG Driving Academy 2019)  ของค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เป็นการจัดครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ใช้เวลาการฝึกอบรมเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งเป็นการฝึกอบรมขับขี่รถยนต์สมรรถนะสูง เพื่อเรียนรู้เทคนิคการขับขี่แบบเต็มสมรรถนะ โดยมีทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพจากเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ดีกรีแชมป์การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตรายการระดับโลก และ มร.เบิร์น ชไนเดอร์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ของเมอร์เซเดส- เอเอ็มจี นักแข่งรถสัญชาติเยอรมัน เจ้าของตำแหน่งแชมป์ DTM 5 สมัย  และแชมป์ 2 สมัยจากสนามนูร์เบอร์กริงสุดโหด ที่ร่วมให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด พร้อมสัมผัสรถยนต์สปอร์ตสายพันธุ์แรงภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ครบทั้งพอร์ตโฟลิโอรวม 14 รุ่น  โดยมีรถยนต์รุ่นไฮไลท์ Mercedes-AMG C 63 S Coupe โฉมใหม่มาให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสในสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ 

พวกเราคณะสื่อมวลชนเดินทางโดยเครื่องบินลงสู่สนามบินบุรีรัมย์ เดินทางต่อไปที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ทันที     ขั้นตอนแรกเรารับฟังข้อมูลรถยนต์ที่จะใช้การฝึกอบรม  และรายละเอียดการอบรมขับขี่ที่เตรียมไว้ถึง 6 Stations หรือ 6 สถานี  ในการอบรมครั้งนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ฝึกทักษะการขับ เทคนิคต่างๆ  เพิ่มประสิทธิภาพผู้ขับขี่ให้ถูกต้องแล้ว ยังใช้ได้จริงกับบางสถานการณ์ที่คุณอาจเจอบนท้องถนน

รถยนต์ที่ทางค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมไว้ให้อบรมครบพอร์ตโฟลิโอ ของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี รวม 14 รุ่น ทั้งประกอบในประเทศ และนำเข้า รวมถึงตัวไฮไลท์ Mercedes-AMG C 63 S Coupe โฉมใหม่ ยนตรกรรมสปอร์ตคูเป้

14 รุ่น ทั้งรุ่นที่ประกอบในประเทศและนำเข้า 

1.Mercedes-AMG GT 53  4MATIC+4 Door Coupe รถสปอร์ต 4 ประตูตระกูล AMG GT

2.Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ รถยนต์นั่ง 4 ประตูสไตล์ AMG 

3.Mercedes-AMG GT C Roadster 

4.Mercedes-AMG E 63 S 4Matic+ 

5.Mercedes-AMG E 53 4 Matic+ Coupe

6.Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+

7.Mercedes-AMG A 45 4MATIC

8.Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC

9.Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC

10.Mercedes-AMG GLE 43 4MATIC Coupé

11.Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé

12.Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé

13.Mercedes-AMG C 43 4MATIC

14.Mercedes-AMG SLC 43

รวมถึง Mercedes-AMG C 63 S Coupe ยนตรกรรมสปอร์ตคูเป้โฉมใหม่ 

เราเริ่มการฝึกอบรมกันที่สถานีแรก

1.Brake & Lane Change

เป็นการฝึกการขับขี่หากเกิดกรณีหักหลบแบบกะทันหัน  ผู้ขับจะต้องทำการควบคุมการเบรกฉุกเฉิน และมองไปยังทิศทางที่รถจะสามารถออกจากจุดนั้นได้อย่างปลอดภัย   โดยสถานีนี้ผู้ฝึกกำหนดให้ขับด้วยความเร็วที่ 100 กม/ ชม  และขยับไปที่ 120 กม / ชม  ออกตัววิ่งตรงเข้ายังซุ้มจุดที่จะเปลี่ยนทิศทางรถ โดยมองที่สัญญาณไฟจะกระพริบซ้ายหรือขวา ผู้ทดสอบต้องเหยียบเบรกและหักเลี้ยวไปทางทิศทางสัญญาณไฟนั้น จุดนี้เราต้องบังคับพวงมาลัยให้มั่นไปในทิศทางที่เรามอง เป็นการทดสอบการควบคุมเบรกฉุกเฉิน และทดสอบความเร็วในการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของตัวผู้ขับเอง ซึ่งผู้ขับจะได้ทดสอบระบบ ความปลอดภัย ESP และไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน ( Adaptive brake light ) 

2.สถานี Car Control

เป็นการฝึกความสามารถในการควบคุมรถของผู้ทดสอบ เมื่อเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือถนนลื่น  ด้วยรถยนต์ที่เตรียมไว้ Mercedes-AMG C 43 4Matic Coupe และ Mercedes-AMG C 43 4Matic ที่ถูกหุ้มด้วยปลอกพลาสติกทั้งล้อ ที่ล้อหลังทั้ง 2 ล้อ เพื่อลดการยึดเกาะถนนจำลองเหตุการณ์ถนนลื่น แน่นอนลื่นชัวร์  สถานีนี้ผู้ฝึกไม่กำหนดความเร็ว ให้เราควบคุมไปตามทิศทางที่กำหนดไว้  การขับจะเกิดอาการลื่นมากเพราะล้อหุ้มด้วยพลาสติก ท้ายจะปัดไปมา  ผู้ทดสอบต้องฝึกทักษะนี้ควบคุมรถให้ได้ การฝึกนี้จะมีการเปิดระบบความปลอดภัย ESP ที่แตกต่างกันไป ทั้งเปิด ปิด และในโหมด Sport  

3.สถานี Drag Race

เป็นสถานีที่เปิดให้ผู้ทดสอบได้สัมผัสสมรรถนะความแรงของรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีได้อย่างเต็มที่ จำลองเหมือนมอเตอร์สปอร์ต จะมีรถ 2 คัน เพื่อฝึกทักษะการตอบสนองของผู้ทดสอบ โดยให้ออกตัวพร้อมกันด้วยความเร็ว เป็นการปล่อยตัวพร้อมกันด้วยสัญญาณไฟแดงดับลง ผู้ขับออกตัวไป เมื่อถึงจุดหมายผู้ทดสอบจะต้องเบรกที่จุดกำหนดไว้  ผู้ใดที่สามารถหยุดรถให้อยู่ในจุดที่กำหนดได้จะถือว่าชนะการแข่งขัน

4.สถานี Cornering Exercise

เป็นการฝึกการเข้าโค้ง จากพื้นที่สนามที่นี่มีจุดโค้งให้ได้เรียนรู้ต่างกันไป มีทั้งจุดโค้งลึกมาก  จุดโค้งต่อเนื่อง โค้งอันตราย ที่มีความกว้างแตกต่างกันไป เป็นการฝึกการเข้าและออกโค้งอย่างไร ผู้ทดสอบสามารถฝึกทักษะที่จำเป็นในการขับขี่ การเบรก การบังคับทิศทางรถ และการมองเห็นได้อย่างเต็มที่  สถานีนี้ผู้ฝึกสอนจะเป็นผู้นำขบวน ทำให้ผู้ทดสอบได้ฝึกการขับขี่ในเส้นทางการแข่งรถจริงๆ พร้อมทั้งยังได้เรียนรู้เทคนิคการขับขี่ของนักแข่งรถอีกด้วย

5.สถานี Lead & Follow

สถานีนี้ถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ผู้ทดสอบได้ฝึกทักษะการขับขี่แบบนักแข่งรถของจริง ขับแบบเต็มสนาม จากที่ฝึกทักษะจุดสำคัญที่ผ่านมา มาใช้ในการขับนี้ โดยมีรถครูฝึกเป็นผู้ขับและขับนำขบวน  ให้พวกเราขับตามเส้นทางการแข่งขันรถของจริงบนสนามเต็มจริง อัตราความเร็วจากปกติเพิ่มขึ้นเป็นระดับต่อเนื่อง  เป็นการขับสไตล์นักแข่งบนแทร็กจริง

6.สถานี Auto-X Practice & Competition 

ออโต้ครอส เป็นการจำลองสนามแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต ผู้ทดสอบจะได้ฝึกใช้ทักษะการควบคุมรถ และการขับขี่ของแต่ละคน เพิ่มความเร้าใจเป็นสถานีที่มีการแข่งขันเพื่อเอาคะแนนผู้อบรม หากไม่ชนไพล่อน ไม่หลงทาง เวลาเร็วที่สุด เป็นผู้ชนะ

พร้อมแบบฝึกอบรมสุดท้ายในการขับขี่เส้นทางการแข่งขันจริงแบบเต็มบนสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต  ขอบอกว่า  เป็นกิจกรรมที่ดีต่อผู้ฝึกอบรม หรือทผู้ดสอบ ที่จะได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม ได้ฝึกทักษะ ได้เพิ่มเทคนิคในการขับขี่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นำไปใช้ในการขับขี่จริงได้ตามจริง รวมถึงได้สัมผัสรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และเมเซอร์เดส-เอเอ็มจี ครบทุกรุ่น และจบสมบูรณ์แบบโดยได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากทางบริษัทฯด้วย 

บทสัมภาษณ์ผู้บริหาร

มร. โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  “แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ยึดถือหลักการสร้างสรรค์รถยนต์ที่สามารถ ‘ขับเคลื่อนทุกสมรรถนะ – Driving Performance’ เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ โดยได้รับการยอมรับในฐานะแบรนด์      รถสปอร์ตระดับแถวหน้าของโลกที่โดดเด่นทั้งในด้านกีฬามอเตอร์สปอร์ต และด้านการพัฒนารถยนต์ที่มีเอกลักษณ์ โดยในปีที่ผ่านมามียอดจำหน่ายทั่วโลกสูงถึง 609,000 คัน และหลังจากเปิดตัวแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีอย่างเป็นทางการในประเทศไทย บริษัทฯได้เดินหน้าเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ภายใต้แบรนด์นี้พุ่งสูงขึ้นเป็นลำดับ  โดยในปีพ.ศ. 2561 มียอดขายเติบโตจากปีก่อนหน้าขึ้นถึง 309%”

“นอกจากการรุกเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บริษัทฯ ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการสานสัมพันธ์ และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีทุกท่าน รวมไปถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการขับขี่รถยนต์สมรรถนะสูงให้กับลูกค้า เราจึงได้สร้างปรากฎการณ์ครั้งใหม่ ด้วยการจัดกิจกรรม AMG Driving Academy 2019 ขึ้นเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยความร่วมมือกับทีมงานจากแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ประเทศเยอรมนี เพื่อให้      ผู้ชื่นชอบความเร็วแรงทุกท่านได้ทดสอบสมรรถนะของรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีอย่างเต็มที่”