Category : เทคนิคการขับขี่

แวะจอดทุกที่เที่ยวปีใหม่อย่างปลอดภัย

3 months ago / 0 comments

กับเทคโนโลยีป้องกันการชนในรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ คุณรู้หรือไม่ว่า เซ็นเซอร์เล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้กระจกมองข้างของรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ มีบทบาทสำคัญในการช่วยเสริมความปลอดภัยให้ผู้ใช้งานขับขี่และถอดจอดรถได้อย่างมั่นใจ ตลอดการเดินทางท่องเที่ยวในเทศกาลปีใหม่ “อุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ นี้เรียกว่าเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิอากาศภายนอก (Outside Air Temperature หรือ OAT) และเป็นหนึ่งในเซ็นเซอร์ที่สำคัญที่สุดในรถฟอร์ด เอเวอเรสต์” แซนดี้ ฟรากาเพน หัวหน้างานควบคุมด้านอากาศและความร้อนในรถยนต์สันดาปของฟอร์ด กล่าว “ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น เซ็นเซอร์ที่ช่วยเตือนการถอยจอดทางด้านหน้าและท้ายรถ รวมถึงระบบปรับอากาศ จะทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ต่อเมื่อเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิทำงานได้ดีเท่านั้น” ฟรากาเพน กล่าว การตรวจวัดอุณหภูมินั้น สำคัญไฉน? เนื่องจากตำแหน่งการติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิมีความสำคัญอย่างมากต่อการทำงานที่แม่นยำของอุปกรณ์อื่นๆ เซ็นเซอร์นี้จึงซ่อนตัวอยู่ใต้ก้านกระจกมองข้างฝั่งผู้โดยสารที่เชื่อมกระจกกับตัวรถ “การติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิไว้ใต้กระจกมองข้างช่วยให้เซ็นเซอร์อยู่ห่างจากชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่มีความร้อน และป้องกันไม่ให้กระทบกับแสงแดดและฝนโดยตรง ซึ่งอาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการวัดอุณหภูมิและส่งผลต่อการทำงานของฟีเจอร์อื่นๆ ที่ต้องอาศัยการวัดอุณหภูมิจากเซ็นเซอร์ดังกล่าว” เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ได้รับการออกแบบมาให้ปรับการจ่ายประจุไฟฟ้าตามสภาพอากาศโดยรอบ และเชื่อมต่อโดยตรงเข้ากับกล่องสมองกล (PCM) เพื่อป้อนข้อมูลไปยังระบบต่างๆ ที่ต้องอาศัยการอ่านอุณหภูมิโดยรอบที่แม่นยำเพื่อการทำงานที่สมบูรณ์ ระบบควบคุมระยะการจอด เนื่องจากความเร็วที่เสียงเดินทางในอากาศจะแตกต่างกันไปตามอุณหภูมิโดยรอบ (โดยเสียงจะเดินทางเร็วขึ้นในสภาพอากาศร้อนและช้าลงในอากาศเย็น) เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิจึงทำงานร่วมกับระบบควบคุมการจอดเพื่อคำนวณระยะการจอดกับวัตถุรอบด้านแบบเรียลไทม์ ทำให้การคำนวณระยะทางและการส่งเสียงสัญญาณเตือนจากเซ็นเซอร์ถอยจอดทำได้อย่างแม่นยำไม่ว่าจะในสภาพอากาศร้อนหรือเย็น ดังนั้น … More…

5 เคล็ดลับซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์สไตล์ครุยเซอร์ 


3 years ago / 0 comments

ให้ถูกใจคนขี่และอุ่นใจคนซ้อน ช่วงเวลาของการปลดปล่อยประสบการณ์แห่งการขับขี่ที่แท้จริง ของเหล่าไบค์เกอร์ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือรุ่นเก๋า ล้วนเป็นเวลาสุดพิเศษที่ยากจะเก็บไว้คนเดียว ดังนั้นสำหรับการขับขี่ระยะไกล และซิตี้ไรด์ การได้มีคู่หู เพื่อนสนิท หรือคนรู้ใจซ้อนท้ายไปด้วย คือการยกระดับประสบการณ์การบิดไปอีกขั้น ทำให้การเดินทางมีสีสัน เสียงหัวเราะ และรอยยิ้มมากขึ้น ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การเดินทางสมบูรณ์แบบมากที่สุด คือมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเหมาะแก่การซ้อนท้าย มอเตอร์ไซค์สไตล์ครุยเซอร์ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะกับการเดินทางทั้งใกล้และไกล มีเบาะนั่งและท่านั่งที่เหมาะสมกับการออกทริป ทั้งขับขี่คนเดียวหรือมีคนซ้อน เมื่อเรามีมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะแก่การซ้อนแล้ว วิธีการซ้อนที่ถูกต้องก็มีความสำคัญมากเช่นกัน ในแง่ของความสบายระหว่างขับขี่และความปลอดภัยของทั้งผู้ขี่และผู้ซ้อน รอยัล เอนฟิลด์ แนะนำ 5 เคล็ดลับสำหรับคู่หูนักขี่มอเตอร์ไซค์สไตล์ครุยเซอร์ ให้คนขี่ขับง่ายและคนซ้อนปลอดภัยไร้กังวล รู้จักมอเตอร์ไซค์ ที่จะใช้ขับขี่ การขี่มอเตอร์ไซค์แบบมีผู้ซ้อนท้ายไปด้วย แตกต่างจากการขี่คนเดียวค่อนข้างมาก ถึงแม้ว่าผู้ซ้อนจะมีน้ำหนักเบาก็ตาม เพราะน้ำหนักรวมของมอเตอร์ไซค์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้การเข้าโค้งยากขึ้น การเร่งความเร็วช้าลง และมีระยะเบรกเพิ่มขึ้น ดังนั้น ผู้ขับอาจจำเป็นต้องฝึกฝนเพิ่มเติมเพื่อให้คุ้นชินกับสภาพรถขณะมีผู้โดยสาร ในด้านของผู้ซ้อนควรทำความรู้จักมอเตอร์ไซค์ให้ดี เช่น ส่วนไหนร้อน ส่วนไหนวางเท้าได้ และส่วนไหนควรระวัง  รอยัล เอนฟิลด์ เมทธิออร์ 350 มีเฟรมแบบเปลคู่ … More…

มารู้จักสิ่งรบกวนที่ทำให้เสียสมาธิขณะขับรถในชีวิตประจำวัน พร้อมวิธีหลีกเลี่ยง

4 years ago / 0 comments

 แม้ว่าในปัจจุบันภาครัฐจะมีการบังคับใช้กฎหมายและข้อบังคับด้านการขับขี่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิขณะขับขี่ เช่น การห้ามผู้ขับขี่ใช้โทรศัพท์มือถือในขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวโดยไม่ใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา ซึ่งผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับตั้งแต่  400 – 1,000 บาท เป็นต้น แต่ปัญหาการเสียสมาธิขณะขับขี่ก็ยังคงเป็นปัญหาสำคัญในประเทศไทยอยู่ดี ถึงแม้ว่าเราจะเห็นผู้ขับขี่คุยโทรศัพท์หรือพิมพ์ข้อความขณะรอรถติดอยู่เป็นประจำ แต่โทรศัพท์ก็ไม่ได้เป็นสาเหตุและสิ่งรบกวนเดียวของการเสียสมาธิขณะขับรถ โดยในปัจจุบัน ผู้ขับขี่เกือบทุกรายเสียสมาธิขณะขับขี่โดยไม่รู้ตัว ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากความไม่เข้าใจว่าการเสียสมาธิขณะขับขี่คืออะไร และไม่รู้วิธีการหลีกเลี่ยง สิ่งรบกวนสมาธิทั้ง 3 ประเภท สิ่งรบกวนที่ทำให้เสียสมาธิระหว่างการขับขี่มักถูกจัดอยู่ใน 3 ประเภท ดังต่อไปนี้   สิ่งรบกวนทางจิตใจ ซึ่งรวมถึงกิจกรรมทุกกิจกรรมที่ทำให้จิตใจผู้ขับขี่ไขว้เขวจากถนน ตั้งแต่การพูดคุยกับผู้โดยสารไปจนถึงการหลุดไปในห้วงความคิดขณะฟังเพลงโปรดจากวิทยุ สิ่งรบกวนทางสายตา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อผู้ขับขี่ละสายตาจากถนน เช่น การมองโทรศัพท์ เช็คลูกๆ หรือการจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกขณะที่ขับรถผ่าน  สิ่งรบกวนที่เกิดขึ้นเอง เมื่อผู้ขับขี่ปล่อยมือจากพวงมาลัยไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เช่น แต่งหน้า กดปรับจีพีเอส หรือเอื้อมไปหยิบสิ่งของต่างๆ  เมื่อพูดถึงพฤติกรรมที่ทำให้เสียสมาธิขณะขับรถ การพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์มือถือมักเป็นสิ่งที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด เนื่องจากการพิมพ์ข้อความได้รวมสิ่งรบกวนครบทั้ง 3 ประเภท ไว้ด้วยกัน จึงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายมากเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าการพิมพ์ข้อความขณะขับรถจะเป็นต้นเหตุและส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้นถึง 2 เท่า แต่การพิมพ์ข้อความขณะขับรถกลับไม่ได้เป็นพฤติกรรมที่ทำให้เสียสมาธิขณะขับขี่ที่พบบ่อยมากที่สุดหรือพฤติกรรมการขับขี่ที่อันตรายมากที่สุด  … More…