Warning: call_user_func_array() expects parameter 1 to be a valid callback, class '' not found in /home/misss/domains/missside.com/public_html/wp-includes/class-wp-hook.php on line 324 CMEx Lifelong Learning Center จุดหมายแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต - missside.com

CMEx Lifelong Learning Center จุดหมายแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต

By / 6 months ago / News / No Comments
CMEx Lifelong Learning Center จุดหมายแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต

ด้านการแพทย์และสุขภาพ

เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้วของการเปิดดำเนินการ “CMEx Lifelong Learning Center ศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิต” ซึ่งตั้งอยู่ ณ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อให้ศูนย์แห่งนี้เป็นศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการช่วยชีวิตให้แก่ประชาชนทั่วไป รวมถึงเป็นศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์ทั้งในไทยและกลุ่มประเทศ CLMV ในการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์และเครื่องมือเฉพาะด้าน ด้วยแนวคิดที่ว่า
“การเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดชีวิต”

อาจารย์นายแพทย์ รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์

อาจารย์นายแพทย์ รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ ประธานคณะทำงานศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิต CMEx Lifelong Learning Center หนึ่งในผู้ผลักดันให้เกิดศูนย์การเรียนรู้ CMEx Lifelong Learning Center กล่าวว่า “ถือเป็นครั้งแรกของภาคเหนือที่มีศูนย์ส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพและการแพทย์ สำหรับประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ได้มีโอกาสเข้ามาฝึกอบรมพัฒนาทักษะด้วยตนเอง โดยหลักสูตรภายในศูนย์แห่งนี้ มีทั้งแบบที่ไม่มีค่าใช้จ่ายและแบบที่มีค่าใช้จ่ายในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวันของประชาชน และเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์”

“จากที่เราเริ่มการให้ฝึกอบรมและให้ความรู้ในเฟสแรกผ่านไปแล้วเมื่อปีก่อน ในปีนี้เราได้ขยายขอบเขตการฝึกอบรมไปยังบุคลากรทางการแพทย์ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามที่เราตั้งเป้าไว้ เพื่อรองรับการเป็น Medical Hub ในภูมิภาคอาเซียนนี้ สำหรับหลักสูตรการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ครั้งล่าสุดนี้ CMEx-Philips International Point-of-Care-Cardiac-Ultrasound เรามุ่งเน้นการฝึกอบรมในการตรวจด้วย อัลตราซาวนด์แบบพกพา Point of Care Cardiac Ultrasound ได้จนชำนาญพียงพอในการตรวจวินิจฉัยประจำวัน ให้กับบุคลากรทางการแพทย์จากหลากหลายประเทศในภูมิภาค อาทิ ประเทศลาว พม่า กัมพูชา และเวียดนาม เป็นต้น ด้วยความตั้งใจของเราคือถ่ายทอดความรู้ที่เรามีไปยังประเทศอื่นๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแพทย์ไปยังประเทศเพื่อนบ้านของเรา และยังเป็นการแลกเปลี่ยนพูดคุยเกี่ยวกับวงการสาธารณสุขของแต่ละประเทศ เพราะเราเชื่อว่าองค์ความรู้ทางการแพทย์สามารถแบ่งปันและแลกเปลี่ยนกันได้ ที่สำคัญ เราหวังว่าด้วยหลักสูตรที่มีอยู่ในขณะนี้ และที่กำลังพัฒนาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องจะช่วยส่งเสริมให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นบนพื้นฐานการเรียนรู้สิ่งใหม่ที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดชีวิต” อ.นพ.รังสฤษฎ์ กล่าวสรุป

สำหรับประโยชน์ของการฝึกอบรมการตรวจด้วยอัลตราซาวนด์แบบพกพา Point of Care Cardiac Ultrasound ได้รับการสนับสนุนจาก Philips Lumify (ฟิลิปส์ ลูมิฟาย) เครื่องอัลตร้าซาวด์แบบพกพาจากฟิลิปส์ เพื่อสอดรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เน้นด้านดิจิทัล และสะดวกมากขึ้นด้วยหัวตรวจแบบพกพาที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้ และยังมาพร้อมเทคโนโลยีส่งสัญญาณภาพและเสียงทางไกลแบบเรียลไทม์อีกด้วย หัวตรวจของ Philips Lumify สามารถใช้ตรวจวินิจฉัยอวัยวะได้หลายส่วน อาทิ หัวใจและหลอดเลือด อวัยวะภายในท้อง หลอดเลือด เนื้อเยื่อ ถุงน้ำดี เป็นต้น

ด้าน นายวิโรจน์ วิทยาเวโรจน์ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวทิ้งท้ายว่า “ฟิลิปส์ ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพ เราตระหนักถึงความสำคัญในการสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ นอกจากการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำสมัยแล้ว เรายังสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถและการให้ความรู้ทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพ ทั้งแก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนอีกด้วย และนับเป็นอีกครั้งที่ฟิลิปส์ได้ทำงานร่วมกับ CMEx Lifelong Learning Center ศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิต ณ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ช่วยสนับสนุนและผลักดันให้เกิดศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ในภาคเหนือเป็นครั้งแรก พร้อมทั้งสนับสนุนเครื่องมือแพทย์ที่จำเป็น และร่วมจัดอบรมหลักสูตร CMEx-Philips International Point-of-Care-Cardiac-Ultrasound สำหรับบุคลากรทางการแพทย์โดยเฉพาะ โดยมีบุคลากรทางการแพทย์กว่า 20 คน จาก 2 ประเทศ อาทิ มาเลเซีย, ฟิลิปินส์  เข้าร่วมการฝึกอบรมในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าปณิธานที่เราตั้งไว้กับกลยุทธ์ที่เราได้ลงมือทำ จะช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลกให้ได้ 2,500 ล้านคน ภายในปี ค.ศ. 2030”